ตอบ ทรัพย์สินทางปัญญา หมายถึง
ผลงานอันเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์
ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทรัพย์สินอีกชนิดหนึ่ง นอกเหนือจากสังหาริมทรัพย์ คือ
ทรัพย์สินที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น นาฬิกา รถยนต์ โต๊ะ เป็นต้น
และอสังหาริมทรัพย์ คือ ทรัพย์สินที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น บ้าน ที่ดิน
เป็นต้น
2.ลิขสิทธิ์ หมายถึง?
ตอบ งานหรือความคิดสร้างสรรค์ในสาขาวรรณกรรม
ศิลปกรรม ดนตรีกรรม งานภาพยนต์ หรืองานอื่นใดในแผนกวิทยาศาสตร์ลิขสิทธิ์ยังรวมทั้ง
- สิทธิค้างเคียง (Neighbouring Right) คือ การนำเอางานด้านลิขสิทธิ์ออกแสดง เช่น นักแสดง ผู้บันทึกเสียงและสถานีวิทยุโทรทัศน์ในการบันทึกหรือถ่ายทอดเสียงหรือภาพ
- โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Computer Program หรือ Computer Software) คือ ชุดคำสั่งที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อกำหนดให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน
- งานฐานข้อมูล (Data Base) คือ ข้อมูลที่ได้รับเก็บรวบรวมขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ด้านต่างๆ
3.สิทธิบัตร หมายถึง?
ตอบ หนังสือสำคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์
(Invention) การออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Design) หรือ ผลิตภัณฑ์อรรถประโยชน์ (Utility Model) ที่มีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด
4.ขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า?
ตอบ
ขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
|
การตรวจค้น
|
1. แนะนำให้ผู้ยื่นดำเนินการตรวจค้นเครื่องหมายที่จะขอจดว่าเหมือนหรือคล้ายเครื่องหมาย
ของผู้อืนหรือไม่
2. ผู้ค้นต้องเสียค่าธรรมเนียมในการตรวจค้น 100 บาท/1 ชั่วโมง
2. ผู้ค้นต้องเสียค่าธรรมเนียมในการตรวจค้น 100 บาท/1 ชั่วโมง
การยื่นขอจดทะเบียน
|
1. ผู้ยื่นต้องเตรียมเอกสารตามที่กฎหมายกำหนดและกรอกข้อความให้สมบูรณ์
ได้แก่
- คำขอจดทะเบียน (ก. 01) พร้อมสำเนา จำนวน 10 แผ่น
- การ์ด (ก. 16) จำนวน 2 แผ่น
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามีการมอบอำนาจ) ติดอากร 30 บาท ต่อผู้รับมอบอำนาจ 1 คน
- สำเนาบัตรประจำตัว (ถ้าผู้ขอเป็นบุคคลธรรมดา)
- ต้นฉบับหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ที่นายทะเบียนออกให้ไม่เกิน6เดือน นับจนถึงวันยื่นคำขอ (ถ้าผู้ขอเป็นนิติบุคคล)
- ถ้าผู้ขออยู่ต่างประเทศให้โนตารี พับลิครับรองเอกสารด้วย
- รูปเครื่องหมายจำนวน 10 รูป
2. ยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียม500 บาท ต่อสินค้า/บริการ 1 อย่าง
- คำขอจดทะเบียน (ก. 01) พร้อมสำเนา จำนวน 10 แผ่น
- การ์ด (ก. 16) จำนวน 2 แผ่น
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามีการมอบอำนาจ) ติดอากร 30 บาท ต่อผู้รับมอบอำนาจ 1 คน
- สำเนาบัตรประจำตัว (ถ้าผู้ขอเป็นบุคคลธรรมดา)
- ต้นฉบับหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ที่นายทะเบียนออกให้ไม่เกิน6เดือน นับจนถึงวันยื่นคำขอ (ถ้าผู้ขอเป็นนิติบุคคล)
- ถ้าผู้ขออยู่ต่างประเทศให้โนตารี พับลิครับรองเอกสารด้วย
- รูปเครื่องหมายจำนวน 10 รูป
2. ยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียม500 บาท ต่อสินค้า/บริการ 1 อย่าง
การตรวจสอบ
|
1.ในขั้นแรกเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเบื้องต้น
(Preliminary check) คือตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารเท่านั้น
(Documentary check)
2.ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและนายทะเบียนจะตรวจสอบว่าเครื่องหมายการค้าที่ขอจดทะเบียนมีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ กล่าวคือ
-ต้องมีลักษณะบ่งเฉพาะ
-ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายและไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายของผู้อื่นในชั้นนี้จะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ3เดือน ต่อ 1 คำขอ
3.ภายหลังตรวจสอบแล้ว
เจ้าหน้าที่จะแจ้งผู้ยื่นคำขอทราบผลการตรวจสอบดังต่อไปนี้ ตามแต่กรณี
-
การรับจดทะเบียน
- ปฏิเสธไม่รับจดทะเบียน
- ให้แก้ไขคำขอ
- แจ้งผู้ยื่นคำขอว่า
เครื่องหมายที่ขอจดทะเบียน มีผู้อื่นยื่นขอจดทะเบียนไว้เช่นกัน ขอให้ผู้ยื่นไปตกลงกันเองก่อน
การแจ้งให้แก้ไขคำขอ
|
ผู้ขอจดทะเบียนต้องดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ผิด
ระบุข้อความไม่ครบถ้วน ไม่ได้ลงลายมือชื่อ ฯลฯ โดยคิดค่าธรรมเนียมคำขอละ 200 บาท
การแจ้งให้ตกลงกันก่อน
|
1.ถ้าผู้ยื่นคำขอตกลงกันได้
และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าใครได้สิทธิในเครื่องหมายการค้านั้นไป
เจ้าหน้าที่จะดำเนินการประกาศโฆษณาต่อไป
2.ถ้าผู้ยื่นคำขอไม่สามารถตกลงกันได้คำขอจดทะเบียนที่ยื่นก่อนจะได้รับการจดทะเบียน ตามหลัก ใครยื่นก่อนมีสิทธิดีกว่า (first-to-file)
2.ถ้าผู้ยื่นคำขอไม่สามารถตกลงกันได้คำขอจดทะเบียนที่ยื่นก่อนจะได้รับการจดทะเบียน ตามหลัก ใครยื่นก่อนมีสิทธิดีกว่า (first-to-file)
การแจ้งไม่ปฏิเสธคำขอ
|
1. เจ้าหน้าที่จะดำเนินการประกาศโฆษณาต่อไป
2.บางกรณีเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้ยื่นคำขอสละสิทธิในคำขอบางส่วนเนื่องจากบางส่วนของ
เครื่องหมายเป็นสิ่งที่ใช้กับสามัญในการค้าขายหรือไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ
-ถ้าผู้ยื่นคำขอยอมสละสิทธิ ผู้ยื่นคำขอต้องแจ้งนายทะเบียนทราบ
-ถ้าผู้ยื่นคำขอไม่เห็นด้วยกับนายทะเบียนผู้ยื่นคำขออาจดำเนินการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าก็ได้
ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งคำสั่ง
โดยชำระค่าธรรมเนียมการอุทธรณ์คำขอฉบับละ 2,000 บาท
การแจ้งปฏิเสธ
|
1. ถ้าผู้ยื่นคำขอไม่อุทธรณ์คำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่
นายทะเบียนก็จะจำหน่ายคำขอนั้น ออกจากสารบบ
2. ถ้าผู้ยื่นคำขอประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการยื่นคำอุทธรณ์
ต่อคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าภายใน 90 วันนับตั้งแต่วันที่รับหนังสือแจ้งคำสั่ง
โดยชำระค่าธรรมเนียมคำขอฉบับละ 2,000 บาท
3. เมื่อคณะกรรมการเครื่องหมายการค้ามีคำวินิจฉัยแล้ว
จะแจ้งคำวินิจฉัยให้นายทะเบียน ทราบดังนี้
-ถ้าวินิจฉัยเห็นควรให้จดทะเบียน
นายทะเบียนจะดำเนินการประกาศโฆษณาต่อไป
-ถ้าวินิจฉัยไม่รับจดทะเบียนนายทะเบียนจะจำหน่ายคำขอจดทะเบียนออกนอกสารบบและคำวินิจฉัย ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าถือเป็นที่สุด
การประกาศโฆษณา
|
1.ถ้านายทะเบียนเห็นสมควรรับจดทะเบียน
นายทะเบียนมีคำสั่งประกาศโฆษณาคำขอ
จดทะเบียนและมีหนังสือแจ้งให้ผู้ขอจดทะเบียนมาชำระค่าธรรมเนียมประกาศโฆษณาคำขอละ 200 บาท ภายใน30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง
- ถ้าไม่ชำระค่าธรรมเนียมภายใน 30 วันถือว่าละทิ้งคำขอ
- เมื่อชำระค่าธรรมเนียมแล้ว นายทะเบียนจะประกาศโฆษณาคำขอจดทะเบียนและจะรอ
การประกาศเอาไว้ 90 วัน
-ถ้าไม่มีการคัดค้านการจดทะเบียนเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายนั้น
ต่อไป
-ถ้ามีการคัดค้านการจดทะเบียน โดยเหตุหนึ่ง เหตุใดเช่น
เครื่องหมายการค้าไม่มีลักษณะ ที่จดทะเบียนได้, เครื่องหมายการค้าไม่ได้เป็นของผู้จดทะเบียน
หรือการจดทะเบียน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ผู้คัดค้านต้องยื่นคำคัดค้านต่อเจ้าหน้าที่พร้อมแสดงหลักฐานและเหตุผลและชำระค่าธรรมเนียมค่าคำคัดค้าน 1,000 บาท
2.เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้ยื่นคำขอทราบว่ามีบุคคล
คัดค้านการจดทะเบียนคำขอนั้น
-
ถ้าผู้ยื่นคำขอไม่ประสงค์จะโต้แย้งการคัดค้านนายทะเบียนจะจำหน่ายคำขอออกจากสารบบ
-
ถ้าผู้ยื่นคำขอประสงค์จะโต้แย้งการคัดค้านให้ยื่นคำโต้แย้งต่อนายทะเบียนภายใน 90วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาการคัดค้าน
3.นายทะเบียนจะพิจารณาในประเด็นที่คัดค้านนั้น เมื่อมีคำวินิจฉัยแล้ว
จะแจ้งไปให้คู่กรณีทราบ
4.คู่กรณีที่เสียประโยชน์อาจอุทธรณ์คำวินิจฉัยของนายทะเบียนได้โดนยื่นคำอุทธรณ์ต่อ
คณะกรรมการเครื่องหมายการค้าภายใน 90วัน
นับตั้งแต่วันที่ทราบคำวินิจฉัยของนายทะเบียนโดยชำระค่าธรรมเนียมคำขอฉบับละ 2,000 บาท
5.เมื่อคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าได้วินิจฉัยแล้วนายทะเบียนจะแจ้งผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าให้แก่คู่กรณีทราบ
6.ถ้าคู่กรณีฝ่ายที่เสียประโยชน์ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัย
ผู้นั้นอาจนำคดีขึ้นฟ้องศาลได้ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ทราบผลคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า
การจดทะเบียน
|
2.เมื่อผู้ยื่นคำขอชำระค่าธรรมเนียม ผู้ยื่นคำขอจะได้รับหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนไว้เป็นหลักฐาน โดยชำระค่าธรรมเนียมสินค้าหรือบริการอย่างละ 300 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น